วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2558

12 Framework Management Tool Box ด้าน Organizing : Six Sigma (6s)


Framework  Management  Tool  Box ด้าน Organizing : Six Sigma (6s)
หลักการ / แนวคิด / ประวัติความเป็นมา
ในทศวรรษที่ 1980 และ1990 เป็นต้นมา บริษัทต่างๆได้นำกลยุทธ์ 6 ซิกม่ามาใช้ในการปรับปรุงผลการผลิตเพื่อในการแข่งขันกับคู่แข่งของตนจนทำให้บริษัทนั้นๆต่างมีผลกำไรอย่างมากมายและเป็นที่ ภาคภูมิใจกับบริษัทของตน เช่น บริษัทโมโตโรล่า (Motorola (1987), บริษัทเท็กซัส อินสตรูเม้นท์ส ( Texas Instruments (1988), บริษัทจีอี ( GE (1995), โทรศัพท์มือถือโนเกีย ( Nokia Mobile(Phone) ระหว่างปีค.ศ.1996-1997) เป็นต้น
เครื่องมือนี้คืออะไร / มีอะไรเป็นองค์ประกอบ
Six Sigma (6s) คือ เครื่องมือและแนวคิดในการปรับปรุงคุณภาพในองค์กรเพื่อลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในกระบวนการต่างๆ ให้เหลือน้อยที่สุดโดยใช้หลักการทางสถิติและมุ่นเน้นลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญในการแก้ไขปัญหาเพื่อการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการรวมทั้งลดผลกระทบและค่าใช้จ่าย โดยชื่อของ Six Sigma นั้นได้มาจากแนวความคิดที่ว่าโอกาสที่เกิดขึ้น 3.4 ครั้งต่อการผลิตหรือการปฏิบัติงาน 1 ล้าน ระดับสมรรถนะขององค์กรโดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 2 Sigma หรือ 3 Sigma
กระบวนการมาตรฐานของ Six Sigma ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนสำคัญ ซึ่งเรียกย่อๆ ว่า DMAIC
1.               D : Define
2.               M : Measure
3.               A : Analyze
4.               I : Improve
5.               C: Control

 Michael Harley ผู้คิดค้นวิธีการ 6 ซิกม่า กล่าวว่า “6σ คือ เป้าหมายขั้นที่สุดของการจัดการเพื่อบรรลุเป้าหมายคุณภาพ”
¢ ± 1σ   มีค่าการยอมรับ  เท่ากับ  68.27 %
¢ ± 2σ    มีค่าการยอมรับ  เท่ากับ  95.45 %
¢ ± 3σ    มีค่าการยอมรับ  เท่ากับ  99.73 %
¢ ± 4σ    มีค่าการยอมรับ  เท่ากับ  99.9937 %
¢ ± 5σ    มีค่าการยอมรับ  เท่ากับ  99.999943 %
¢ ± 6σ    มีค่าการยอมรับ  เท่ากับ  99.9999996 %


เครื่องมือนี้ใช้เพื่ออะไร
-                    การลดข้อบกพร่อง (Defect Reduction)
-                    การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต (Yield Improvement)


-                    เพิ่มความพอใจของลูกค้า (Improved Customer Satisfaction)
-                    เพิ่มรายได้สุทธิ (Higher Net Income)
ข้อดีของเครื่องมือ
-                    ลดจำนวนของเสีย ทำมีกระบวนการทำงานที่มีเสถียรภาพและทำให้ต้นทุนต่ำลง
-                    กระบวนการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาที่มีรูปแบบและมาตรฐาน
-                    การทำงานง่ายขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
-                    เป็นการทำงานโครงการ ที่สามารถวัดผลสำเร็จได้
ใช้อย่างไร (หรือจัดทำอย่างไร)




1.               กำหนดเป้าหมาย (Define Target)
2.               การวัดความสามรถของกระบวนการ (Measure)
3.               การวิเคราะห์สาเหตุปัญหา (Analyze)
4.               การปรับปรุงโดยเน้นที่ต้นเหตุของปัญหา (Improve)
5.               การควบคุมกระบวนการที่มีผลกระทบ (Control)


มีใครนำเครื่องมือนี้ไปใช้บ้างและได้ผลสรุปอย่างไร / กรณีศึกษา
ธุรกิจที่มีชื่อเสียงหลายรายได้นำเอาวิธีการนี้ไปใช้ในองค์กรเช่น บริษัท General Electric (GE) จำกัด เป็นต้น ที่นำวิธีการนี้มาใช้ในปี ค.ศ. 1996 โดยได้ผลดังนี้
-                    CEO มีการปลูกฝังทัศนคติและมุมมองเรื่องของ “Six Sigma” เสมือน “ดี เอ็น เอ ที่อยู่ในสายเลือด” ของทุกคนในองค์กร


-                    การมองศูนย์กลางที่ตัวลูกค้าเป็นสำคัญ (Customer Centric)
-                    ต้องทำให้ทุกคนมีส่วนร่วม (Everybody Play)
-                    การตั้งเป้าหมายอย่างท้าทาย (Straight Target) บนความเชื่อที่ว่า “ทำได้มากกว่า
-                   กำหนดทิศทางโดยผู้รับผิดชอบ ใน GE ไม่มีระบบอาวุโส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น